ยินดีต้อนรับทุกท่านที่ร่วมเดินทางไปกับนายตาตีบ

นายตาตีบยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ความทรงจำของการเดินทางสายวัฒนธรรม ประเพณี และดนตรีนาฏศิลป์อีสาน ความรู้บางอย่างที่มิอาจหาได้จากห้องเรียน

วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2554

บุญบั้งไฟประเพณีถวยแถน

ฮีตหนึ่งนั้น เถิงเดือนหกแล้วให้นำเอาน้ำวารีสรงโสก ฮดพระพุทธรูปเหนือใต้สู่ภาย อย่าได้ละเบี่ยงบ้ายปัดป่ายหายหยุด มันสิสูญเสียศรีต่ำไปเมือหน้า จงพากันทำแท้แนวคองฮีตเก่า เอาบุญไปเรื่อยๆ อย่าถอยหน้าหากสิเสียคำกล่าวนี้บ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงความยึดมั่นในการทำบุญของคนอีสาน



               จึงก่อให้เกิด ฮีตสิบสองเดือน ของชาวอีสาน ซึ่งในแต่ละเดือนจะมีประเพณีการทำบุญที่เกี่ยวเนื่องกับ พระพุทธศาสนา และผีสางเทพเทวดา  ตลอดเวลา ทั้ง 12 เดือน หรือตลอดระยะเวลา 1 ปี จึงทำให้พื้นที่ ที่คนกล่าวขานกันว่าพื้นที่ที่ราบสูงแห่งนี้ เต็มไปด้วยความสามัคคี  ความมีน้ำใจไมตรี และเต็มไปด้วยวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของชาติ  







ในวันที่ 26 27 พฤษภาคม 2554 ที่ผ่านมา ตำบลบ้านห้วยแอ่ง อำเภอเมืองมหาสารคาม ได้จัดบุญบั้งไฟที่ยิ่งใหญ่ขึ้น ภายในตำบล บุญบั้งไฟเป็นประเพณีที่นิยมทำกันในเดือน ๖ ของทุกปี จากการกล่าวเล่าของผู้เฒ่าในตำบลห้วยแอ่งเกี่ยวกับประเพณีบุญบั้งไฟได้ความว่า การจัดทำบุญบั้งไฟ เพื่อบูชาอารักษ์หลักเมืองและถวยแถน(ถวายพญาแถน) เป็นประเพณีทำบุญขอฝนจากพญาแถนเพื่อให้ฝนตกต้องตามฤดูกาลบ้าง คนหรือวัวควายอาจเกิดป่วยเป็นโรคต่างๆ บ้างเป็นต้น และเมื่อทำบุญดังกล่าวแล้ว ก็เชื่อว่าฟ้าฝนจะอุดมสมบูรณ์ ประชาชนในหมู่บ้านนั้นจะอยู่เย็นเป็นสุข มีอาหารข้าวปลาที่บริบูรณ์ทั้งปราศจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ





               ปีนี้งานบุญบั้งไฟของทางตำบลห้วยแอ่งได้จัดยิ่งใหญ่เฉกเช่นทุกปีที่ผ่านมา แต่ปีนี้ มีความพิเศษอยู่ที่ มหรสพที่นำมาแสดงในงาน เป็น วงโปงลาง ของคณะแคนศิลป์  จากพิพิธภัณฑ์เมืองมหาสารคาม(หนองข่า) ความพิเศษที่ว่าคือ ตามปกติแล้ว วงโปงลาง จะเป็นวงใหญ่ และมีอุปกรณ์เครื่องดนตรีเยอะแยะมากมาย แต่ทางคณะวงโปงลาง แคนศิลป์ มีเครื่องดนตรีไม่มาก นักแสดงไม่มาก หรือกล่าวง่ายๆคือ วงโปงลาง แบบโฟล์คนั่นเอง  มีโปงลาง  แคนวง ประมาณ 2-3 เต้า โหวด พิณโปร่ง  ฉาบ กลองลูกเดียว นางรำ ประมาณ 4 6 คน หมอลำและนักแสดงอีกประมาณ 3-4 คน รวมทั้งหมดประมาณ 20 กว่าคนแค่นั้น ซึ่งทำให้งานบุญบั้งไฟในครั้งนี้ครึกครื้นได้มากทีเดียว ทั้งชาวบ้าน และทางวงแคนศิลป์เองก็มีความสุขที่ได้ร่วมงานบุญบั้งไฟของทาง อบต.ห้วยแอ่งในครั้งนี้ ทางชาวบ้านก็เป็นกันเอง อย่างมาก เห็นได้จาก ตั้งแต่ทางคณะแคนศิลป์ได้ก้าวเดินลงจากรถ ชาวบ้านและผู้จัดงานบางส่วนก็มาต้อนรับ และหาน้ำหาอาหารมาต้อนรับ ทั้งขนมจีนน้ำยาที่ผู้เขียนสามารถการันตรีถึงรสชาติความอร่อย  ไอศกรีมโคลนแบบบ้านๆ คนละ 1 อัน แต่ทางผู้เขียนนั้นได้ทานถึง 4 อันเพราะต้องถือรอนางรำแต่งตัวกว่าจะเสร็จ อากาศก็ร้อนระอุ ไอศกรีมก็ละลายเร็ว เพื่อไม่ให้ไอศกรีมละลายไปมากจนทานไม่ได้ ทางผู้เขียนเลยอนุเคราะห์ทานให้หมดทั้ง 4 อัน ตลอดระยะเวลา  3 ชั่วโมงที่ทำการแสดงเรียกเสียงฮา และความสุขสนุกสนานให้กับทางชาวบ้านตำบลห้วยแอ่งเป็นอย่างดี 




               เมื่อการแสดงนั้นได้ถึงเวลาสิ้นสุดลง ด้วยความเอ็นดูของชาวบ้านที่มีต่อคณะวงแคนศิลป์ ชาวบ้านที่นั่งดูนั่งชมการแสดง ได้พากันเดินมาส่งขึ้นรถด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่มีความสุข เป็นภาพที่ประทับใจและติดตรึงในหัวใจของชาวแคนศิลป์ทุกคนให้หายจากอาการเหนื่อยได้เป็นปลิดทิ้ง  การแสดงถึงความเป็นวัฒนธรรมหรือการแสดงเอาใจคนดูนั้น ไม่จำเป็นเสมอไปว่าจะต้องเป็นการแสดงที่ยิ่งใหญ่อลังการ แต่อยู่ที่กลยุทธ์ที่จะนำเสนอ ให้คนดูเข้าใจ ชอบ เรียกเสียงหัวเราะได้มาก จากสิ่งที่ตัวเองนั้นมี บางครั้ง มีแค่แคน 1 เต้า ผ้าขาวม้า 1 ผืน ใช้กลยุทธ์หาจุดขายของตนเองเจอก็สามารถเรียกความสนใจจากคนดูได้มากกว่า วงใหญ่ๆที่เล่นโดยไม่รู้ว่าจุดขายของตนเองอยู่ที่ใด   

สวยมาก

มือพิณผู้สูงอาดหลาด



อ๊ะ ๆ แอบงีบอีกแล้ว!!
ยายดลลี่


มือปืนหน้าไม้แคนสิลป์

ความเป็นพื้นเพของพื้นบ้านแคนสิลป์

สาวสวยจากนครพนม


ฟ้อนหางนกยูงหัวเรือ สกลนคร


หมอลำทองปึ้ด


เสียงโหวดเพราะมาก


ลำเรื่องท้าวสีทน


มือโปงลางเล่นได้คร่องมาก


ฟ้อนแห่ และฟ้อนถวย(ถวาย)พ่อปู่ตา

หมอลำคู่ขวัญ

พิธีไหว้ครูแคนศิลป์


















1 ความคิดเห็น:

  1. เขียนให้ตลอดนะ มีคนเข้ามาอ่านเรื่อยๆ เขียนเป้นบันทึกความทรงจำดีๆไว้นะ เป็นจำลังใจแล้วจะมาอ่านบ่อยๆ

    ตอบลบ