ผมก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งในชมรมนาฏศิลป์และดนตรีพื้นเมือง หรือคนทั่วไปมักรู้จักในชื่อ “วงแคน” ชาว วงแคน ตั้งแต่เปิดเทอมมาทุกคนยังไม่ได้หยุดพักในเรื่องของการซ้อมและการแสดงเลย ผมก็เช่นเดียวกัน ทำกิจกรรม หลายๆอย่างมากมายจนหัวจวนจะหมุนเป็นเกรียว ทั้งทำงานของสโมสรนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ ทำงานรายวิชาส่วนตัว และยังมีงานของ วงแคน อีกอย่าง ตั้งแต่เช้าของวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา “กริ้ง ! ๆ ๆ” เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น “สวัสดีครับไผ่พูดครับ” “เอ่อ! ไผ่ วันที่ 12 มิถุนา มีงานแสดงที่ วิด-ลัยการเมืองเด้อ ลงมาซ้อมที่ชมรมตอนเย็นนะ” เสียงของมิว หัวหน้านาฏศิลป์ชาย “โอเค แล้วตอนเย็นเดี๋ยวไปเด้อ” ผมตอบรับอย่างยินดี
ประมาณ 5 โมงเย็นของวันนั้นผมออกเดินทางจากห้องพักกับน้องชายที่พักอยู่ด้วยกัน เพื่อที่จะไปซ้อมดนตรีและซ้อมฟ้อนที่ชมรม จากห้องพักผมถึงชมรม วงแคนที่อยู่ มอเก่า ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 15- 20 นาที “ฮื้ม! . .” เสียงดับเครื่องของรถมอไซด์ ที่ผมใช้เดินทางดับลง ผมก้าวเดินลงจากรถ บึ่งหน้าไปที่ห้องพระของชมรม ซึ่งเป็นห้องที่ทางชมรม ให้ความเคารพมาก
 |
| ห้องพระชมรมนาฏศิลป์และดนตรีพื้นเมือง โดยมีหลวงพ่อใหญ่วงแคน เป็นพระประธาน |
พอกราบพระเสร็จ ประธานชมรมได้เรียก สมาชิกชมรมทุกคนประชุมถึงรายละเอียดในงานที่จะไปแสดง พอประชุมเสร็จ ทุกคนจึงได้แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนเอง ผมซึ่งได้หน้าที่ในงานนี้เป็นนาฏศิลป์ชาย ลายที่ผมได้ฟ้อนนั้นคือ “ลายเต้ยหัวโนนตาล” ผมทำการซักซ้อมพอรู้ว่าท่าไหนขึ้นก่อนหลัง ลักษณะของท่าต่างๆพอสมควรแล้ว “ไผ่ๆ ๆ” เสียงคิมเรียกผม “อีหยัง” ผมถามไปด้วยความสงสัย “ซ้อมเสร็จแล้วไป่” (ซ้อมเสร็จยัง) คิมถาม “เสร็จแล้ว” “เอ่อ มาต่อท่ารำมวยโบราณให้น้องเขาแหน่” คิมบอก ผมพยักหน้าแล้วเดินตรงไปหากลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง กลุ่มคนกลุ่มนี้คือนิสิตปี 1 ที่เข้ามาด้วยโควตาขับร้องนั่น ผมจึงบอกให้เขาหัดเดินในท่ากาเต้นก้อนขี้ไถ หรือเดินย่องในแบบรำมวยนั่นเอง เวลาประมาณเกือบ 4 ทุ่มของวันนั้น ทางประธานชมรมก็สั่งให้หยุดการซ้อมทุกอย่าง แล้วให้ทุกคนไปประชุมรวมกันที่ห้องซ้อม ในการประชุมแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 20-30 นาทีแค่นั้นเพื่อรับทราบรายละเอียดของงาน ตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันที่ 12 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่ต้องแสดง

วันนี้ทางชมรมนัดนักแสดง และนักดนตรี เวลา บ่าย 2 รวมตัวกันที่ชมรมเพื่อเตรียมของที่จะใช้ในการแสดง ผมได้ออกเดินทางจากห้องพักตั้งแต่เวลา บ่ายโมงครึ่งด้วยรถมอไซด์ กับน้องคนเดิม พอไปถึงชมรมผมก็รีบบึ่งเข้าไปห้องพระอย่างเช่นเคย หลังจากกราบพระเสร็จก็ช่วยเพื่อนจัดของเข้ากล่องเพื่อเตรียมนำไปแสดง พอดีวันนี้เป็นวันพิเศษอีกอย่าง นั่นคือ วันคล้ายวันเกิดของครูบุ๋ม นาฏศิลป์หญิงสมาชิกคนหนึ่งของชมรม ทางเพื่อนๆที่มาก่อน จึงจัดการเตรียมเค้กวันเกิดเพื่อที่จะเซอร์ไพร์ พอจัดของเสร็จเรียบร้อยทุกคนจึงช่วยกันขนของออกมาข้างนอก เพื่อเตรียมเอาขึ้นรถที่จะมารับในอีกไม่กี่นาทีที่จะถึง หลังจากขนของออกจากห้องเสร็จทุกคนพากันปูเสื่อใต้ต้นไม้หน้าชมรมนอนรอรถที่จะมารับ แต่มีคน 3-4 คนที่เดินกลับมาในห้องของชมรมอีกครั้งหนึ่งในนั้นก็มีผมด้วย พร้อมกลับออกมาด้วยเค้กวันเกิดก้อนโต ในตอนนั้นบุ๋มเจ้าของวันเกิดยังนอนเล่นไม่รู้เรื่องกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น พอพวกผมเดินมาถึงที่ที่เจ้าของวันเกิดนั่งอยู่ “1 -2 -3 แฮปปี๊เบิร์ดเดย์ ทูยู” เสียงของ องุ่น หญิงสาวผู้ถือ เค้กวันเกิดเริ่มเป็นต้นเสียง
 |
| วันนี้วันเกิดครูบุ๋มจ้า |
พอเสร็จจากการกินเค้กวันเกิดเสร็จ รถสองแถวที่จะใช้ขนของไป มอใหม่ ก็มาถึงพอดี ใช้เวลาในการเดินทางจาก มอใหม่ถึง มอเก่า ประมาณ 10 นาที ถึงวิทยาลัยการเมืองการปกครอง เวลา 4 โมงเย็นทุกคนแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนเอง นางรำก็ขนเครื่องใช้ของตนเองไปที่ห้อง D-211 นักดนตรีก็ขนของไปไว้ที่หน้าตึกวิด-ลัยการเมือง เวลาประมาณ 6 โมงเย็นเป็นเวลาเริ่มการแสดง เริ่มจากการแห่พานบายศรีสู่ขวัญ ทำการสู่ขวัญ

และบรรเลงลายบายศรีสู่ขวัญ เปิดวง เต้ยหัวโนนตาล การแสดงนี้เองที่ผมได้มีส่วนร่วมในการแสดงด้วย ในตอนที่กำลังแสดงนี้เอง ท้องของผมก็เริ่มรู้สึกปั่นป่วน ลมเบื้องบนตีกับลมเบื้องล่าง ทำให้ผมรู้สึกปวดท้องอย่างบอกไม่ถูก พอแสดงเสร็จลงมาจากเวทีอาจารย์กัณตพล ที่ปรึกษาวงแคน เดินมาหาผมแล้วถามผมว่า “ไผ่ทำไมไม่ยิ้ม” ผมเลยตอบอาจารย์ไปด้วยเหตุผลว่า “ผมปวดท้องครับอาจารย์ และอีกอย่างคือถ้าผมยิ้มผมจะมองไม่เห็นทางครับ” อาจารย์ถึงกับยิ้มออกมาด้วยความขำ การแสดงดำเนินต่อไปด้วย ฟ้อนแพรวากาฬสินธุ์ ฟ้อนลีลาวดี และตามด้วยปิดวงเป็นอันจบการแสดง การแสดงในครั้งนี้ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีเห็นได้จาก ความสนุกของคนที่มาดู มีส่วนร่วมถึงกับลุกขึ้นฟ้อนกันเป็นจำนวนมาก
 |
| วงแคน ณ หน้าตึก D |
 |
| บาส มือโหวด |
 |
| ฟ้อนเต้ยหัวโนนตาล |
 |
| ฟ้อนแพรวากาฬสินธุ์ |
 |
| อ๊อฟ มือกลอง |
 |
| เหมือนจะร้องไห้เลย องุ่น |
 |
| ดูใบหน้าคนข้างหลัง อาการของคนปวดท้อง |
 |
| ฟ้อนแพรวา สวยมาก |
 |
| กั๊บแก๊ป กับ นางไห วงแคน |
 |
| รอยยิ้ม ตรึงใจ |
ดีงามครับ ร่วมกันสืบสานศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น
ตอบลบ